เปิดกระจกขับรถยังไงให้ดี

Punyapat Sessomboon
3 min readDec 21, 2020

--

เมื่อเช้าผมเดินทางกลับบ้านที่ขอนแก่น ระหว่างขับรถก็คิดเรื่อยเปื่อย แล้วพอดีช่วงนี้อากาศเย็นๆ ก็เลยลองเปิดกระจกขับรถ แล้วก็สงสัยขึ้นมาว่าถ้าเราเปิดกระจกแบบต่างๆ กัน จะได้ความรู้สึกต่างกันไหม… ปรากฎว่าต่างครับ! วันนี้ก็เลยจะมาแชร์ให้ฟังว่าค้นพบอะไรไปบ้างครับ

เริ่มจากรูปแบบที่เป็นไปได้ทั้งหมดของกระจกรถยนต์แบบ 4 ประตู จะมีทั้งหมด 15 แบบ คำนวนจากประตูแต่ละบานมี 2 สถานะ คือ “เปิดกระจก” และ “ปิดกระจก” ทุกบานสามารถเปิดปิดได้โดยอิสระ ไม่อิงกับบานอื่นๆ ก็จะได้รูปแบบทั้งหมด เท่ากับ

2 x 2 x 2 x 2 = 16 ลบกรณีที่ปิดทุกบานออกไปก็จะเหลือ 15 แบบ

มาเริ่มกันเลย

เปิด 1 บาน (ลมหยาบ)

การเปิดกระจกแค่บานเดียว เราจะได้รับลมแบบหยาบๆ และเสียงดัง! ลมแบบหยาบๆ ให้จินตนาการเหมือนมีปืนใหญ่ที่ยิงลมออกมาเป็นลูกๆ เราจะโดนยิงแบบรัวๆ แบบที่ไม่มีจังหวะ ไม่ค่อยมีทิศทาง จะเป็นลมที่ค่อนข้างน่ารำคาญ บวกกับเสียงยิ่งทำให้ไม่สะดวกสบายเข้าไปอีก เสียงตรงนี้ไม่ได้เหมือนถึงเสียงข้างนอกนะครับ หมายถึงเสียงของลมปะทะกัน เหมือนลมมันเดินทางไม่สะดวกก็เลยตีกันไปมา ไม่แนะนำให้เปิดบานเดียวครับ นอกจากจะขับช้ามาๆ อาจจะพอได้

ไม่แนะนำเปิดหน้าต่างบานเดียว

เปิด 3 บาน (ไม่ค่อยต่าง ไม่คุ้ม)

การเปิดกระจก 3 บาน เมื่อเทียบกับการเปิด 2 บาน มีข้อเสีย 3 ข้อ

  1. ให้ความรู้สึกไม่ต่างกับการเปิด 2 บานมากแบบมีนัยยะสำคัญ
  2. การที่เราต้องจำว่าต้องเปิดบานไหนบ้าง ใช้ความพยายามมากกว่าแบบ เปิด 2 บาน (ข้อนี้จริงๆ ก็แก้ด้วยการจำว่าต้องปิดบานไหน 1 บานก็ได้)
  3. การที่เราต้องทำนิ้วเพื่อเปิดพร้อมกัน 3 บาน ทำได้ยาก เดี๋ยวนิ้วล็อคตอนขับรถนี่แย่เลย อาจจะต้องเปิดครั้งงละ 1 บานแทน ทำให้เสียเวลา
ไม่แนะนำเปิดหน้าต่าง 3 บาน

เปิด 2 บาน (แนะนำ แต่แค่บางรูปแบบ)

การเปิดกระจก 2 บานเป็นรูปแบบที่แนะนำครับ แต่ละแบบจะให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน เริ่มจากการเปิด 2 บานมีทั้งหมด 6 แบบ (4 เลือก 2 แบบไม่สนใจลำดับ)

รูปแบบที่ 1 เปิด 2 บานด้านขวา หรือ เปิด 2 บานด้านซ้าย

เปิด 2 บาน ด้านใดด้านหนึ่ง
  1. การเปิดกระจกแบบนี้จะให้ลมที่ Gentle (อ่อนโยน) คือลมจะเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีเสียงลมกระแทกดังๆ เหมือนลมหยาบ
  2. ถ้าเราเปิด 2 บานฝั่งซ้าย ลมอ่อนๆ จะวิ่งผ่านคนที่นั่งฝั่งขวา มันจะพัดหาคนที่นั่งอยู่ด้านตรงข้าม เช่นเดียวกัน ถ้าเปิดกระจกฝั่งขวา ลมก็จะวิ่งผ่านคนที่อยู่ฝั่งซ้าย มันแปลกมากๆ ผมก็ไม่เข้าใจ แต่เดาว่าลมน่าจะวิ่งประมาณนี้
คนนั่งฝั่งที่เปิดกระจกจะไม่โดนลมเลย

เพราะฉะนั้น ถ้าเราเป็นคนขับ ก็เหมาะที่จะเปิดกระจกด้านซ้ายทั้ง 2 บานครับ เราจะได้รับลมเย็นๆ ไม่แรงเกินไป และเสียงก็จะไม่ดัง เพราะว่าด้านที่เปิดอยู่ไกลจากหูเรา

รูปแบบที่ 2 ปิดกระจกเป็นเส้นทะแยง

เปิดกระจกเป็นเส้นทะแยง

คือ เปิดด้านหน้าขวาและด้านหลังซ้าย หรือ เปิดด้านหน้าซ้ายและด้านหลังขวา

  1. การเปิดกระจกแบบนี้จะได้ลมที่ Gentle คล้ายๆ กับข้อ 2 แต่ว่าการเปิดแบบนี้จะมีข้อดีตรงที่ ลมจะไม่วิ่งผ่านเบาะตรงข้ามกับหน้าต่างที่เปิดทางด้านหน้ารถ เหมาะกับกรณีที่เราต้องการให้มีลมวิ่งผ่านในรถ แต่ไม่ต้องการปะทะกับลม แค่อยากให้ในห้องโดยสารเย็นๆ
    * เหตุผลที่ไม่เลือกรูปแบบที่ 1 แบบเปิดฝั่งขวา เพราะว่า ต่อให้มีลมเข้ามาให้รถ และไม่โดนตัวเราก็จริง แต่เสียงจากข้างนอกจะเข้ามาดังมากกว่า เพราะว่าเราเปิดประจกฝั่งที่ติดกับคนขับเลย
  2. รูปแบบนี้จะมีข้อเสียตรงที่ เสียงจะเข้ามาจากด้านหลังของฝั่งที่เปิดกระจกหลัง ทำให้อาจจะรำคาญเล็กน้อย
  3. ข้อดีอีก 1 ข้อคือ ถ้าเราเปิดกระจกแบบนี้ แล้ววิ่งผ่านรถพ่วง ไอเสียจากรถพ่วงจะไม่ค่อยผ่านตัวเรา ทำให้เราไม่ได้กลิ่น (แต่มันผ่านเข้ามาในรถนะครับ แล้วก็ผ่านไป) เส้นมิตรภาพรถพ่วงเยอะเลย รูปแบบนี้ก็ช่วยครับ ไม่ต้องคอยปิดเปิดกระจกบ่อยๆ
สีเขียวคือลม สีแดงคือเสียง

รูปแบบที่ 3 เปิด 2 บานหน้า หรือ เปิด 2 บานหลัง

ไม่แนะนำเปิด 2 บาน แบบนี้

อันนี้ไม่แนะนำครับ จะได้ลมหยาบๆ คล้ายๆ กับรูปแบบที่เปิดกระจกแค่ 1 บาน

เปิด 4 บาน (มั่วไปหมด)

การประกระจกทุกบานจะได้ลมแบบนี้ วิ่งกระจายทั่วห้องโดยสาร แบบไม่ค่อยมีทิศทาง คือวิ่งทั่วทั้งห้อง และเสียงก็จะดังมาก เพราะว่าเสียงเข้ามาได้ทั้ง 4 ทิศทาง เหมาะจะใช้เวลามีคนนั่งเต็มคัน และต้องการรับลม แต่ต้องขับช้าๆ หน่อยครับ ถึงจะได้ความรู้สึกที่ดี

เปิดทั้ง 4 บาน

ความแรงของลม

จะขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่าง

  1. เราขับรถเร็วแค่ไหน
  2. เราเปิดกระจกกว้างขนาดไหน

อย่างผมที่ขับรถกลับบ้าน วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 100–110 km/h พอเปิดกระจกแค่ 2 นิ้วถือว่ากำลังดีครับ อย่าลืมว่ายิ่งเปิดกว้างเสียงยิ่งดังด้วยนะครับ

จากที่ผมได้ทดลอดมา โดยส่วนตัวผมคิดว่า สำหรับคนขับ ผมแนะนำ 2 รูปแบบนี้ครับ

2 รูปแบบที่แนะนำ

โดยใช้ต่างโอกาสกันง่ายๆ แค่นี้เลยครับ ตลอดทางผมก็เปิดสลับรูปแบบ 1 และ 2 ไปเรื่อยๆ

รูปแบบที่ 1 ถ้าต้องการให้มีผลพัดผ่านตัว

รูปแบบที่ 2 ถ้าแค่ต้องการให้มีลมผ่านเข้ามาให้รถ ให้อากาศไม่ร้อน หายใจสะดวก

ถ้าใครมีโอกาสได้ลอง อย่าลืมเอามา comment แบ่งปันประสบการณ์กันนะครับ

--

--